วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2555

อำมหิตสงครามพิชิตอัฟกานิสถาน 9 th company

อำมหิตสงครามพิชิตอัฟกานิสถาน 9 th company  [VCD MASTER]







ขนาด  1.31 GB 
Preview

ภาพยนต์เรื่องนี้ กล่าวถึง สงคราม สหภาพโซเวียต กับอัฟกานิสถาน  โดยนำเนินเนื้อเรื่องผ่านกองทัพที่ เก้าของกองทัพโซเวียตอันเรื่องชื่อ   พวกเขาต้อง  ต้องสู้รบกับพวกมูจาฮีดีน ซึ่งทำให้พวกเขาต้องล้มตายกันไปทีละคน   ซึ่งภาพยนต์เรื่องนี้ อ้างอิงจาก เรื่องจริงที่เกิดขึ้น 
ในการรบแห่งเนิน 3234

วันเวลา 7 มกราคม, 1988 – 8 มกราคม, 1988
สถานที่ จังหวัด คอสต์ , อัฟกานิสถาน
ผลการรบ โซเวียตเป็นฝ่ายชนะ

กำลังพล
โซเวียต                                                            39 คน
 อัฟกัน มูจาฮิดีน/หน่วยนกกระสาดำ               200 ถึง 400 คน(ประมาณการโดยโซเวียต)

ความสูญเสีย
โซเวียต                                                           เสียชีิวิต 6คน,บาดเจ็บ 28คน
 อัฟกัน มูจาฮิดีน/หน่วยนกกระสาดำ              ตั้งแต่ 90-200คนขึ้นไป (ประมาณการโดยโซเวียต)

(จะเห็นได้ว่ากองทัพโซเวียตในตอนนั่นเทพไม่เบาเลย)

ตัวอย่าง 

Trailer


  


DOWNLOAD 

PART 1      







Part1 - Part6 :    189 MB     Part 7 :   78.9 MB 


การรบ
  ในยุทธการนี้ ผบ.โซเวียตต้องการควบคุมถนนระหว่างเมือง กัซนีกับคอสต์ ให้ปราศจากการรบกวนของพวกมูจาฮิดีนไปจนสุดสาย หนึ่งในจุดที่สำคัญที่สุดตามเส้นทางนี้ ก็คือเนินเขาแห่งหนึ่งซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 3,234เมตร ฝ่ายโซเวียตจึงเรียกเนินเขานี้ว่า เนิน3234 ตามความสูงนั้นเอง
     ด้วยการนี้ได้มีการส่งกำลังพลร่ม จากกองร้อยที่ 9 (9th company) ซึ่งอยู่ในสังกัดของ กรมทหารพลร่มอิสระ การ์ด ที่345 (345th Independent Guards Airborne Regiment) กองร้อยนี้มีผู้นำคือ พันเอก วาเลรี่ โวสโทรติน (Valery Vostrotin) ในวันที่ 7 มกราคม ปี1988 ทหารในกองร้อยทั้ง 39คน ได้รับคำสั่งให้เข้ายึดพื้นที่บนเขาไว้ พวกเขาเริ่มสร้างที่มั่นให้แข็งแกร่ง เพื่อใช้เป็น จุดสังเกตการณ์และเป็นการควบคุมพื้นที่ไว้ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับ ขบวนคอนวอยซึ่งจะต้องเดินทางผ่านเส้นทางนี้ เพื่อใช้ขนส่งเสบียงไปสู่แนวหน้า
     หลังจากมาถึงได้ไม่นานเหล่าทหารพลร่ม ที่ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี และมีประสบการณ์ในสงครามอัฟกัน มาอย่างโชกโชน ได้เลือกจุดที่จะสร้างที่มั่น ทั้งสองทางข้างถนน และทางขึ้นเขา ในขณะที่พวกเขากำลังขุดดิน เพื่อดัดแปลงภูมิประเทศอยู่นั้น ฝ่ายมูจาฮิดีนก็เปิดฉากโจมตี ในเวลา 15.30น. ด้วยอาวุธทุกอย่างที่มี ตั้งแต่เบาไปจนถึงหนัก ตั้งแต่จรวดอาร์พีจี ไปจนถึงปรส.
     แต่ในขณะที่ยิงไปได้เพียงไม่กี่นัด ปืนใหญ่โซเวียตก็ิ่เริ่มยิงใส่มูจาฮิดีน ตามพิกัดที่พวกพลร่มแจ้งมา โดยมีผู้นำหมวดแรก ร้อยโท วิคเตอร์ กาการิน(Victor Gagarin) เป็นผู้แจ้งพิกัดทางวิทยุด้วยตนเอง เมื่อฝ่ายมูจาฮิดีนทำการยิงเบาบางลง ฝ่ายโซเวียตจึงรู้ว่า นี่เป็นสัญญาณเริ่ม ที่ข้าศึกจะบุกเข้าจู่โจมด้วยกำลังทหาร เข้ามาตะลุมบอนอย่างซึ่งๆหน้า
     พลร่มโซเวียต ต้องเผชิญหน้ากับข้าศึกมูจาฮิดีน ซึ่งติดอาวุธมาเป็นอย่างดี จำนวนมาก ประมาณ 200-400คน (ข้าศึกมาเป็นฝูงแบบนี้ใครเจอก็ต้องตกใจกลัวละฟะ ก็มีกันแค่ 39คนเอง)
ซึ่งเป็นนักรบที่ได้รับการช่วยเหลือ และฝึกปรือโดยปากีสถาน พวกมูจาฮิดีนทำการบุกเข้ามาสองทิศทางด้วยกัน ในระหว่างการรบเหล่าพลร่ม ได้ติดต่อกับศูนย์บัญชาการอยู่เสมอ หัวหน้าของกองทัพที่ 40 ได้ตกลงที่จะให้การยิงสนับสนุนด้วยปืนใหญ่,ส่งเสบียงกระสุน และส่งกำลังเสริมไปให้ รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์ที่จะนำผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ออกจากสนามรบ

นับตั้งแต่พวกมูจาฮิดีนเริ่มโจมตีครั้งแรก เมื่อเวลา 15.30น.ของวันที่ 7 มกราคม รวมแล้วพลร่มถูกโจมตีถึง 11 ครั้ง จนรุ่งเช้าของวันต่อมา คือวันที่ 8 มกราคม พวกมูจาฮิดีนจึงได้ล่าถอยออกจากเนิน 3432 หลังจากต้องสูญเสียกำลังพล ไปเป็นจำนวนมาก
     ส่วนพลร่มโซเวียตนั้น ก็มีคนได้รับบาดเจ็บกันแทบทุกคน และกระสุนก็เกือบหมดพอดีกับการโจมตีครั้งสุดท้ายของมูจาฮิดีน หากพวกมูจาฮิดีนบุกโจมตีอีกระลอกละก็ พวกพลร่มคงถูกสังหารหมู่บนเนิน 3234 ไปแล้วแน่ๆ และคงจะไม่มีชัยชนะของโซเวียต ให้เป็นตำนานเล่าขาน ดังเช่นในวันนี้แน่นอน 



CREDIT : TANARMY .COM